Michael Jackson :: Thriller (1982)

Quincy Jones พูดถึง Michael ไว้ว่า "ในปัจจุบันนักร้องผิวดำที่ร้องเพลงได้ดีที่สุดในโลกก็คือ Michael Jackson" คุณคิดว่าจริงไหมครับ ผมว่าจริง ร้องเพลงนะครับ ไม่ใช่เสียงดี Lionel Richie, Prince, Marvin Gaye ศิลปินพวกนี้พิสูจน์ผลงานของตัวเองก็แต่ในแนวดนตรีที่พวกเขาถนัดเท่านั้น ไม่เคยพิสูจน์ในความแตกต่างแห่งน้ำเสียงในลีลาเลย แต่การที่ร้องเพลงได้ดีที่สุดก็ไม่ได้หมายความว่า สร้างผลงานที่ดี ไม่ต้องที่สุดหรอก (ขออธิบายอีกครั้ง 6 ดาว ถึง 4 ดาวที่ผมให้ ผมคิดว่าน่าจะซื้อแผ่นชุดนั้นมานั่งฟังได้แล้ว ถ้าต่ำกว่า 4 ดาวลงไปก็คงจะไม่คุ้มเงินเท่าไหร่หรอกครับในสายตาของผม แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพวกคุณเอง)

โปรดิวเซอร์ของชุดนี้คือ Quincy Jones เป็นคนเก่ง Michael ร้องเพลงได้ดีมาก ผมชอบเขามาตั้งแต่ 12 ปีที่แล้ว ในสมัยนั้นเขาใช้ชื่อวงว่า Jackson 5 เป็นคู่แข่งของ The Osmonds แต่ Osmonds ค่อนข้างจะมีภาษีดีกว่า แต่ผมก็ชอบ Jackson 5 มากกว่า Osmonds ตั้ง 12 ปีที่แล้ว กาลเวลาย่อมพิสูจน์ผลงานของคน ปัจจุบันใครเป็นผู้ยืนหยัดอยู่ในวงการได้ย่อมพิสูจน์ให้คุณเห็นได้

แต่ผลงานชุดนี้ก็แค่แผ่นที่มีผลงานบรรจุให้อยู่เต็มแผ่นเท่านั้น เอา Paul McCartney มาร่วมร้องเพลง The Girl Is Mine เอามาร้องทำไม เพื่อประดับบารมีแผ่นของตัวเองหรือ ดนตรีชุดนี้มีแต่เพลงรักๆใคร่ๆ ตามปกติไม่ได้ผิดหวังในเรื่องนี้หรอก นี่ล่ะหรือแผ่นที่ขายดี นี่คือเครื่องพิสูจน์ได้อย่างว่า รสนิยมการฟังดนตรีของคนเมืองนอก พวกเขาก็ฟังแค่เอาความไพเราะเท่านั้น พวกปัญญาอ่อนในเมืองไทยก็ชอบฟังเพลงในแบบนี้ใช่ไหมครับ โธ่เอ๋ย ปัญญาชน ผู้ทำให้ดนตรีหยุดนิ่งอยู่กับที่ แทนที่จะช่วยกันพัฒนาดนตรี สวะทั้งนั้น นี่ว่าตัวเองด้วยนะ เพราะก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อแผ่นชุดนี้มาฟัง

ถ้าศิลปินระดับพระกาฬสร้างผลงานได้ระดับนี้ไม่ต้องไปหวังความก้าวหน้าแห่งวงการเพลงหรอก 10 ปีที่แล้ว 10 ปีปัจจุบันก็เป็นเช่นนั้น เพลงในแผ่นชุดนี้แทบทุกเพลงฟังติดหูได้ง่าย เช่น Beat It, Billie Jean, P.Y.T. เป็นต้น เมื่อติดหูได้ง่ายก็เบื่อได้ง่ายเช่นกัน คนบางคนอาจจะไม่คิดอย่างนี้ แต่ถ้าคุณลองฟังประมาณ 50 รอบ เพราะมีแผ่นชุดนี้อยู่ในมือ ในขณะที่เขียน 2 เดือนแล้ว คุณจะรู้ว่าเพลงที่ฟังเพราะ ที่คุณพูดว่าคุณชอบฟังนั้น เอียนถึงคอเลย เหมือนอาหารอิตาลีหรืออาหารจีน ที่พอกินเข้าไปมากๆล่ะก็ ถึงไม่อิ่มก็ต้องหยุดล่ะครับ

จะบอกไงดีว่าแผ่นนี้สมควรซื้อไหม ถ้าคุณจะเอาความไพเราะ ชุดนี้มีความไพเราะให้ ผมกล้าพูดว่าทุกเพลงเลย ถึงแม้ว่าบางเพลงอาจจะฟังยากหน่อยในตอนต้นๆ แต่ถ้าได้ฟังดีๆแล้ว เพลงนั้นก็มีคุณค่าแห่งความดีในตัวของตัวเอง เช่นเพลง Wanna Be Startin' Somethin' ไม่ได้ด้อยไปกว่า Beat It ที่พวกคุณชอบนักหนาเลย

พอพูดถึง Beat It ก็ขอพูดเลย Eddie Van Halen ผู้เล่นกีต้าร์ในเพลงนี้เป็นคนมีความสามารถมาก นี่คือแผ่นของ Michael Jackson ไม่ใช่ Van Halen การเล่นกีต้าร์ของเขาเสริมเพลงให้เด่นขึ้นมามาก เพราะเขาเป็นผู้อยู่ข้างหลัง Michael เขาไม่ควรที่จะทำตัวให้เด่นกว่า Michael นี่คือลักษณะของการเป็นนักดนตรีแบ็คอัพ นักดนตรีแบ็คอัพคือผู้อยู่เบื้องหลังศิลปิน ถ้านักดนตรีแบ็คอัพคนไหนทำตัวเด่นกว่าศิลปินเจ้าของแผ่น เขาก็ไม่ต่างกับไอ้คนเห็นแก่ตัว ไม่สำนึกในหน้าที่ของตัวเอง Eddie ได้พิสูจน์สิ่งนี้ออกมาแล้วว่า เขารู้จักหน้าที่ของเขาเอง เพียงแค่นี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า เขาสมควรแล้วที่จะเป็นศิลปินระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

และ Michael Jackson กับ Quincy Jones ก็ได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่าเขาเป็นศิลปินระดับพระกาฬที่ทำดนตรีเพื่อเงินลูกเดียวได้สำเร็จ แผ่นนี้ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรขึ้นมาให้กับดนตรีในแบบ Black Music เลย มีแต่ทำให้ทรงตัวอยู่แค่นั้น และถ้ายิ่งทำแผ่นในแบบนี้อีกต่อไป วงการดนตรีในแบบ Black Music จะทรุดตัวลงเรื่อยๆ

เอาไปพูดได้เลยว่าผมเป็นคนเขียนเองว่า "ศิลปินระดับพระกาฬทำงานเพื่อเห็นแก่เงินมากกว่าความเจริญของดนตรี" เงิน ใครๆก็อยากได้ แต่ควรจะคิดถึงศักดิ์ศรีที่ค้ำคอตัวเองก่อน เพราะมนุษย์ที่เกิดมามีปลอกคอแห่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้ว ถ้าใครก็ตามที่สลัดปลอกคอนั้นออก แสดงว่าคุณไร้แล้วซึ่งความเป็นมนุษย์ คุณเป็นเพียงร่างกายที่ยังคงมีลมหายใจอยู่ แต่ไม่ใช่มนุษย์หรอกครับ รู้จักคำว่าพอบ้างสิครับ ไอ้เศษกระดาษที่พวกคุณเรียกว่าเงินนั่น ใช่ครับ ใครๆก็อยากได้ แต่ทำอะไรสักอย่างให้มนุษย์ที่เขาต้องการมากกว่าความสนุกสนานบ้างสิครับ สร้างดนตรีดีๆขึ้นมาได้ ถึงแม้จะล้มเหลว คุณก็มีโอกาสตั้งตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง เพราะคุณเป็นมนุษย์ ตราบใดที่มนุษย์ยังมีลมหายใจ ตราบนั้นคุณมีโอกาสเสมอ

แนวดนตรี - Black Music (มีอยู่หลายแนว ฟังกี้ โซล เป็นต้น เลยเรียกรวมกันไป)
โปรดิวเซอร์ - Quincy Jones

SP 178

No comments:

Post a Comment