หมายเลขแผ่น - 815 304-4
แนวดนตรี - Funk (Soul) Jazz
โปรดิวเซอร์ - Nigel Wright
สังกัด - Polydor
ออกปี - 1983
ในอดีตนั้นดนตรีในแนวแจ๊สเป็นดนตรีของคนข้างถนนที่มีอารมณ์พิศมัยในดนตรีมาจับกลุ่มเล่นกันเองฟังกันเอง และสนุกสนานด้วยกัน และดนตรีในแนวนี้ที่ดีส่วนมากก็จะสูญหายกันไปในข้างถนนนี้เอง แต่พอดนตรีในแนวนี้ได้รับความนิยมกันมากขึ้น มีการนำเสนอและขยายขอบเขตของแนวดนตรีกันออกไปเรื่อยๆ คนฟังดนตรีในแนวนี้ก็เปลี่ยนแปลงกันไป ในเมื่อมีคำว่าธุรกิจเข้ามาสอดแทรกและทำเงินทำทองกันให้ ดนตรีในแนวนี้กลับกลายเป็นของคนที่คิดว่า ตนเองคือบุคคลที่มีรสนิยมต่างระดบกับคนธรรมดาสามัญแบบเราๆท่านๆ แน่นอนคนที่สนในความมีดนตรีอยู่ในหัวใจก็ยังมี แต่เราก็ยังมีกาฝากของคนที่ฟังดนตรี โดยคิดว่าดนตรีคือเครื่องบ่งบอกรสนิยมกันอยู่ไม่น้อย แต่ในปัจจุบันนี้แนวดนตรีของแจ๊สนั้น เริ่มที่จะหันกลับมาสู่ความเป็นสามัญชนแห่งเงื่อนไขของกาลเวลากันอีกครั้ง ชาคาร์ทัค วงนี้เป็นบทที่จะพิสูจน์ให้เราได้ทราบว่าสิ่งที่ผมูดนี้เป็นความจริงกันหรือไม่
การทำดนตรีที่มีความไพเราะกันในแบบสามัญชนเขาฟังกัน แต่ทำได้ดีทำได้ถึงนั้น เป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่าที่จะไปเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม ถ้าเราจะคำนึงกันว่าในปัจจุบันนี้มีคนทำดนตรีเพื่อแฟนๆกันเฉพาะกลุ่มกันมากกว่าที่จะไปั่งสนใจว่า ยังมีคนฟังเพลงส่วนมากที่ยังมีบันไดแห่งการก้าวเดินกันขึ้นไปสู่ยอดสูงสุดกันอีกมากมาย ดังนั้นเมื่อมีคนทำให้เราฟัง ก็ย่อมสมควรที่เราควรจะให้ความสนใจกันบ้าง ไม่ใช่ว่าดนตรีเขาเป็นในแบบที่จะมานั่งฟังกันเล่นๆเพื่อเอาความไพเราะกันลูกเดียว ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วดนตรีที่เขาทำกันออกมานั้นจะเป็นดนตรีที่ทำกันออกมาเพื่อเน้นในเรื่องความไพเราะลูกเดียวก็ตาม แต่ถ้าคนทำนั้นมีความสามารถที่แท้จริงกันแล้ว เขาก็สามารถที่จะนำเรื่องแห่งความสามัญธรรมดามาถ่ายทอดให้เราฟังกันได้ และเมื่อฟังกันจบแล้วเราอาจจะต้องพูดกันว่านี่เป็นความธรรมดาสามัญที่มีคลาสกันนี่
คนที่ไม่เคยคิดว่าดนตรีแจ๊สนั้นจะทำกันออกมาแล้วมีความไพเราะได้ในแบบเพลงป๊อบกันแล้วน่าจะลองหามานั่งฟังกันดู และบางครั้งคุณก็อาจที่จะติดบ่วงเสน่ห์ของเพลงแจ๊สกันได้โดยที่คุณอาจไม่มีวันรู้ตัวกันเลยทีเดียว เพราะเราอาจจะเรียกกันได้ว่านี่เป็นการผสมผสานสูตรแห่งความสำเร็จที่มีรสชาติกันจริงๆ จะฟังดูให้เพลงเป็นป๊อบกันในแบบทั่วไปก็เป็นกันได้ จะฟังดูว่าเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองกันในแบบเพลงของคนดำก็เป็นกันได้ และถ้าจะฟังว่าให้เป็นเพลงแจ๊สแล้วจะมีใครที่จะปฏิเสธได้ว่านี่ไม่ใช่เพลงแจ๊ส ถ้าคนๆนั้นรู้ว่าเพลงแจ๊สนั้นเป็นเพลงเช่นไร หลายๆส่วนมารวมกันไม่ใช่การจับยัดใส่กันลงไปโดยลืมนึกถึงความเป็นจริงที่คนฟังจะต้องรับกัน การทำเพลงนี่ก็เหมือนกับสูตรของการเรียนการเป็นบาร์เทนเดอร์ ที่มีคำพูดกล่าวไว้ว่า ถึงคุณจะเรียนมาเช่นไร แต่ถ้าจะให้สู้กับคนที่เรียนการปรุงเหล่ามาจากคำว่าประสบการณ์แล้วไม่ได้หรอกครับ คำพูดเช่นนี้อาจจะมีคนแย้ง แต่จะเป็นความจริงหรือไม่นั้น คนที่ดื่มเท่านั้นจึงจะสามารถที่จะพิสูจน์กันได้ ฉันใดฉันนั้น ดนตรีชุดนี้จะมีส่วนกันอย่างไรแห่งการประสมประสานความเป็นดนตรีที่จะดีหรือไม่นั้น ก็ต้องอยู่ที่ตัวพวกคุณกันเองเท่านั้นที่จะต้องเป็นคนพิสูจน์และหาความจริงกันเอาเอง ไม่ได้บอกว่าให้พวกคุณเสียเงินที่จะหาชุดนี้มานั่งฟังกันหรอกนะครับ แต่อยากจะบอกว่า ถ้าพวกคุณมีโอกาส ไม่ว่าจะขวนขวายกันมาอย่างไร ก็ลองหาชุดนี้มานั่งฟังกัน จะฟังอย่างไรก็ได้ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณ เพราะผมคิดว่าชุดนี้คนทำเขาทำกันออกมาได้อย่างธรรมดาสามัญกันมาก ธรรมดาจนกระทั่ง การทำให้สิ่งที่ยากเหลือเกินในหมู่ของคนที่คิดว่านี่เป็นดนตรีของคนที่เท้าไม่ติดดินทั้งหลายเท่านั้นที่จะมานั่งฟังดนตรีแบบนี้กันได้ อาจจะเป็นคนที่มีเท้าติดดินในแบบเราๆท่านๆก็เป็นได้ ที่จะมองเห็นว่าดนตรีชุดนี้มีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างนะที่ซ่อนเร้น
ความไพเราะของดนตรีอาจจะมีอยู่หลายสาเหตุหลายประการที่เรายากที่จะบ่งบอกกันได้ว่าอะไรกันคือความไพเราะ แต่มีสาเหตุหนึ่งที่ตรงเป้าตรงประเด็นที่สุด นั่นก็คือคนที่ฟังออกมาแล้ว มีความรู้สึกว่า ดนตรีชุดนี้เพราะดีนี่หว่า ใครจะว่าไม่เพราะ ข้าไม่สนกันแล้ว (ที่จริงเหตุผลนี้ก็เกือบตรงเป้าแล้ว แต่ถ้าอยากที่จะเป็นคนที่มีเหตุผล ข้อสำคัญที่สุดก็คือการรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นกันบ้าง เราก็มีสมอง แล้วทำไมคนอื่นเขาไม่มีสมองกันหรือย่างไรครับ เรามีความคิดแล้วคนอื่นเขาไม่มีความคิดกันหรือ เรื่องเพลงนี้ผมคิดว่าไม่มีใครถูกใครผิด เพียงแต่ว่าความรับรู้ในการฟังของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน เพราะเรื่องเพลงนี้เราจะต้องคงไว้ซึ่งการศึกษา ใฝ่หาความรู้ ไม่ใช่จากการอ่านตำรา แต่เป็นจากการฟังครับ และถ้าจะศึกษาแล้ว ไม่ใช่ฟังเพื่อบอกว่าข้าฟังแล้ว แต่เป็นการฟังแล้วคิดครับ นั่นคือดนตรี) นั่นคือความชอบส่วนตัว แต่อย่าไปนั่งฟังกันเพื่อคิดว่าเป็นเรื่องที่จะส่งเสริมรสนิยมเลยครับ เพราะไม่เป็นความจริง
บางครั้งความธรรมดาสามัญของดนตรีชิ้นหนึ่งนั้นอาจจะแฝงไว้ด้วยความสุดยอดของดนตรีที่ดีโดยที่คนทำจะทราบหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ชาร์คาร์ทัคก็ได้ทำกันให้เราดูแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ที่พวกคุณจะเป็นคนตัดสินใจกันแล้ว
SP 186
SP 186
No comments:
Post a Comment