ใครจะคิดว่าคนที่เคยร้องเพลงแค่เพลงเดียวในชีวิตเมื่อ ๗-๘ ปีที่แล้ว ที่ได้อัดลงไปในแผ่น Selling England By The Pound ชื่อเพลง More Fool Me ในนามของคณะ Genesis ซึ่งตอนนั้น Peter Gabriel เป็นนักร้องนำ จะโด่งดังขึ้นมาพรวดพราดอย่างนี้ ใช่ครับ เขาคือ Phil Collins นักร้องนำและมือกลองคนใหม่ของคณะ Genesis หลังจากที่สมาชิกทั้งเก่าและใหม่ได้ออก LP เดี่ยวส่วนตัวกันทุกคนแล้ว แต่อันที่จริง Phil ก็เคยออก LP ของตัวเอง แต่ไม่ใช่ในนามของตัวเอง แต่เป็นในนามคณะ Brand X
เพลงใน LP ชุดนี้ เรียกว่ารวมไว้ทุกรสชาติ มีหลายลีลา ตั้งแต่ Progressive Rock เรื่อยไปจนถึงเร็กเก้ร็อค นักดนตรีแต่ละคนที่มาร่วมช่วย Phil เล่นดนตรี ฝีมือระดับพระกาฬทั้งนั้น แต่ไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีมือของตัวเองออกมาเลย เช่น Eric Clapton, Stephen Bishop เป็นต้น
LP ชุดนี้จึงจัดว่าเป็น LP ชุดยอดเยี่ยมมากจนอยากให้ทุกๆท่านได้เป็นเจ้าของ เพลงของ Phil ฟังไม่ยากอย่างผลงานเดี่ยวของ Peter Gabriel และไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้ชื่นชอบใน Genesis
เรียกว่าเพลงเด่นๆของ LP ชุดนี้มากมายสุดจะพูดก็ได้ อาจจะบอกว่าเป็น LP ที่ยอดเยี่ยมมาก ที่มีเพลงดีเด่นมากมาย จนสามารถบอกได้เลยว่าคุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์
In The Air Tonight
Progressive Rock สไตล์ Genesis แต่ค่อนข้างอ่อนกว่ากันมาก เสียงของ Phil นิ่มนวล แต่แสดงถึงความรู้สึกเยือกเย็นอันน่าจับต้องสัมผัส โดยเฉพาะเสียงกลองของ Phil เน้นถึงจังหวะและความรู้สึกได้ดีมาก
This Must Be Love
ไพเราะจริงๆ หวานจับใจ เสียงเบสเด่นชัดมาก โดยเฉพาะเสียงเครื่องเคาะจังหวะ ทำได้วิเศษมาก จนทำให้เสียงของ Phil ล่องลอยอยู่ในอากาศอะไรเช่นนั้น เพลงนี้ได้ Stephen Bishop มาช่วยร้องประสานให้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะอยู่ที่ฝีมือของ Phil มากกว่า จากเพลงนี้จะเห็นได้ว่าการใช้เครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น ก็สามารถสร้างเพลงดีๆขึ้นมาได้ ถ้ามีฝีมือจริงๆ
Behind The Lines
ผลงานเก่าๆของ Genesis จากชุด Duke ตอนนี้ Phil นำมาเปลี่ยนแนวดนตรีไปเลยจาก Progressive Rock กลายมาเป็นเพลงร็อคออกจังหวะเร็กเก้ไปได้ มีการเพิ่ม sax และ trombone ขึ้นมาด้วย เลยทำให้เพลงนี้ฟังดูแปลกๆดี ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพลง progressive เช่นเพลงนี้ จะถูกเปลี่ยนแปลงไปได้มากมายถึงขนาดนี้
Drones
ฟังเพลงนี้แล้วคิดว่า Phil นี่เก่งรอบตัวเลยทีเดียว ไม่ใช่เล่นกลองได้ดีเพียงอย่างเดียว ร้องเพลงก็เพราะ แต่งเพลงก็เก่ง ยังเล่นเปียโนเก่งอีกด้วย เพลงนี้ถ้าใครเคยฟังผลงานของวง Brand X ที่ Phil สนับสนุนอยู่ นี่ล่ะครับ ดนตรีในแบบของ Brand X ที่ส่วนมากเป็นเพลงบรรเลง ค่อนข้างลึกล้ำยากแก่การเข้าใจ
The Roof Is Leaking
เพลงสั้นๆ มีเครื่องดนตรีแค่ ๓ ชิ้น คือ เปียโน แบนโจ กีต้าร์ ไม่ค่อยได้เห็นดนตรีในแบบ progressive ใช้แบนโจกันเลย ก็เพิ่งเคยเห็นนี่ล่ะ แต่ฟังไม่ค่อยออกเลยเสียงแบนโจ ได้ยินตอนท้ายนิดหน่อยเท่านั้น ท่านจะสังเกตได้ว่าดนตรีของ Phil ใช้คนเล่นน้อยมากในแต่ละเพลง
Hand In Hand
เพลงแห่งสันติภาพ เช่นวง Alice ที่เคยมาแสดงในเมืองไทย เพลงนี้รู้สึกว่า Phil จะประพันธ์ให้เด็กกำพร้าผิวดำแห่งเมืองลอสแองเจลิสนะครับ และ Phil ยังนำเด็กๆเหล่านั้นมาร่วมร้องด้วยเลย เพลงนี้เป็นเพลงบรรเลง ท่วงทำนองฟังได้ง่ายว่าเพลง Droned มาก ถ้าเพลงนี้ใส่เนื้อร้อง โอกาสดังคงมีมาก
I Missed Again
เป็นเพลงที่ฟังได้ง่ายๆ ท่วงทำนองจัดว่าถูกแต่งเพื่อเอาใจตลาดโดยแท้ แต่ถึงแม้จะเอาใจตลาด ก็ไม่ใช่เพลงในแบบตลาดที่หาฟังได้ง่ายๆ เสียงทรอมโบนและทรัมเป็ตเป็นเอกมาก ช่วยขับเน้นให้เพลงมีจังหวะและลีลาคึกคัก จังหวะของเพลงออกไปในแนวดนตรีของคนผิวดำในแบบ soul หรือ punk จะสังเกตได้ว่า Phil พยายามเลี่ยงรูปแบบของ Genesis ออกไปทุกที อาจจะเป็นการปูทางเพื่อการเป็นศิลปินเดี่ยวก็ไม่รู้ ท่อนกลางของเพลงนี้เด่นมากด้วยเสียงทรัมเป็ต
You Know What I Mean
เป็นเพลงที่ Phil ร้องคลอเสียงเปียโนที่ตนเล่นเองเพียงอย่างเดียว เพราะจริงๆ หวานซึ้งจับใจ
Thunder and Lightning
จากเพลงช้าๆหวานๆ มาสู่เพลงในจังหวะคึกคัก เสียงของ Phil รู้สึกมีพลังขึ้นมามากมาย ในเพลงนี้เสียงกีต้าร์คึกคักกันมาก เล่นกลองเป็นจังหวะเสียงตบมือ เวลาแสดงสดเพลงนี้จะฟังสนุกมาก เพราะเล่นลูกเล่นได้มากมาย
I'm Not Moving
สงสัยเพลงนี้ต้องอัดทับกันหลายครั้ง เพราะเล่นกันแค่ ๒ คนเท่านั้น โดย Phil เล่นดนตรีเองทุกอย่าง ไม่ว่ากลอง เปียโน เครื่องเคาะจังหวะ และ John Giblin เล่นเบส จังหวะ (beat) เปลี่ยนไปทุกเพลง ถึงแม้จะเป็นเพลงร็อคในแบบคึกคักเหมือนกับเพลง Thunder and Lightning
If Leaving Me Is Easy
เป็นแบบ Jazz เสียแล้วเพลงนี้ เสียง Alto Sax เพราะมาก แล้วท่านจะต้องชอบเสียง Alto Sax ในเพลงนี้มาก โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นของเพลงนี้ เพลงนี้ อีริค แคลปตัน เล่นกีต้าร์ให้นะครับ พอท่อนกลาง ดนตรีเริ่มเปลี่ยนมาในแนว Progressive เห็นฝีมือไหมครับ
Tomorrow Never Knows
เพลงเก่าของบีทเทิลส์ จากการประพันธ์ของจอห์น เลนนอน กับ พอล แมคคาร์ทนีย์ รู้สึกว่า Phil จะนำเพลงนี้มาใส่ใน LP ชุดนี้ เพื่อรำลึกถึงจอห์น เลนนอน มากกว่า
LP ชุดนี้จัดว่าเป็น LP ที่ดีมากในรอบ ๔ เดือนของปีนี้ ไม่ต้องไปคิดว่า LP จะขายดีหรือเปล่า เพลงแต่ละเพลงไม่มีท่วงทำนองเพลงที่คล้ายกันเลย ถึงแม้ว่าจะเล่นเพลงคนละแนว แต่พอฟังแล้วก็ไม่เสียอารมณ์เลย แต่กลับมีความรู้สึกว่าทำได้ดีด้วยซ้ำไป ถ้าท่านชอบฟังเพลงในแบบไม่รุนแรงจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นดนตรีในแบบ Progressive Rock, Rock, Pop LP ชุดนี้มีให้ท่านหมด จนแยกไม่ออกว่าดนตรีของ Phil นั้นควรจะจัดอยู่ในประเภทไหน
SP 155
SP 155
No comments:
Post a Comment