คิดว่านักฟังดนตรีทั้งหลายที่ฟังดนตรีกันมา อย่างน้อยก็คงได้ยินชื่อศิลปินที่ชื่อ "จอร์จ เบนสัน" กันมาบ้างไม่มากก็น้อย แล้วแต่ความสนใจของผู้ฟังดนตรีแต่ละบุคคล บางคนอาจจะรู้จักชื่อเสียงจอร์จมานานตั้งแต่สมัยที่เขายังเล่นกีต้าร์แจ๊สอยู่ บางคนที่ไม่สนใจแนวดนตรีนักก็อาจจะเคยได้ยินชื่อหรือผลงานของเขามาจากเสียงกีต้าร์ที่แสนหวานจากผลงานดนตรีของเขา นักฟังบางท่านที่ชอบฟังดนตรีแนวหวานๆนุ่มนวลในแนวและเสียงร้องของศิลปินรับเชิญบางคนที่มีโอกาสร่วมงานกับจอร์จมาก่อน ก็คงจะคุ้นเคยกับดนตรีในยุคหลังของจอร์จมาบ้าง แม้ว่าจะไม่ได้สนใจว่าผลงานชิ้นนั้นใครคือเจ้าของดนตรี แต่ไม่ว่าคุณจะรู้จักศิลปินที่ชื่อว่า"จอร์จ เบนสัน" ในฐานะใด จะรู้จักชื่อเสียง รู้จักผลงาน ชอบในเสียงกีต้าร์ หรือความไพเราะของดนตรีที่คุณผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้โดยเด็ดขาดก็คือ จอร์จ เบนสันเป็นศิลปินที่มีความสามารถ และผลงานที่ผ่านมาเขารู้ว่าเขากำลังทำอะไร
ผลงานในชุด 20/20 ชุดนี้ ไม่แน่ใจว่าแฟนดนตรีที่ชื่นชอบจอร์จในฐานะมือกีต้าร์ดนตรีแจ๊สจะมีความรู้สึกอย่างไร ถึงแม้ว่าจะตัดความสวยสดของดนตรีออกไปก่อน เพียงแต่จะมานั่งทำใจกันว่า ดนตรีที่จอร์จกำลังเสนอในชุดนี้ไม่ใช่แจ๊สแล้วก็เป็นการยากแล้ว ถ้าดนตรีชุดนี้เป็นแจ๊สก็เป็นแจ๊สในแบบที่ควรจะเรียกว่า แนวเด่นในฐานะแจ๊สที่แท้จริงเป็นรองรูปแบบของดนตรีที่จอร์จเสนอออกมา หรือดนตรีในยุคนี้ที่เขาประทับตราผลงานของศิลปินเพียงแค่ชื่อเสียงหรือผลงานที่ผ่านมาในอดีตเท่านั้น ศิลปินที่เล่นดนตรีแจ๊สถ้าออกไปเล่นดนตรีแนวอื่นคนฟังก็ยังยอมรับอยู่เองว่าเขายังมีความเป็นแจ๊สอยู่นั่นเอง ทั้งๆที่เขาอาจจะต้องการแสวงหาความไม่มีที่สิ้นสุดในฐานะศิลปินที่ตัวเขาคิดว่าเขาสามารถจะทำได้ และสำหรับศิลปินที่ชื่อว่า จอร์จ เบนสันนั้น ไม่ใช่แค่เขามีความเชื่อมั่นว่าเขาทำได้เท่านั้น แต่เขายังทำได้ดีอีกด้วย จากดีจนถึงดีที่สุด นี่คือผลงานที่จะพิสูจน์สิ่งที่ข้อเขียนของผมจะได้บ่งบอกออกไป
อัลบั้ม (เทป) ม้วนนี้มีดารารับเชิญมากมายเต็มไปหมด คิดว่าจอร์จรับผู้ร่วมงานแต่ละบุคคลที่จะมาช่วยงานในแต่ละเพลงนั้นเป็นการกระทำอย่างรอบคอบและพิถีพิถันมากแล้ว ตามฟอร์มศิลปินที่ดีทั้งหลายจะได้กระทำเมื่อมีโอกาสที่จะกระทำ ลักษณะดนตรีของจอร์จในการเลือกศิลปินแต่ละคน มาร่วมงานในแต่ละเพลงนั้นฟังดูแล้วมีความรู้สึกซึ่งแตกต่างไปจากศิลปินแถบเวสต์โคสต์ ซึ่งพอใครมีผลงานก็แห่กันไปช่วย เพราะแนวดนตรีเวสต์โคสต์นั้นศิลปินแต่ละคนรู้มือกันดีอยู่แล้ว ในแนวทางที่วงต่างๆหรือศิลปินแต่ละคนมีลักษณะเด่นเฉพาะบุคคลซึ่งจะส่อออกมา ส่วนแนวดนตรีของจอร์จในชุดนี้กลับเป็นลักษณะที่ดนตรีแต่ละเพลงจอร์จได้วางหนทางที่จะทดลองความหลากหลายในสิ่งหลายอย่างที่ตนคิดออกมาเท่านั้น ถ้าจะเปรียบเทียบกับดนตรีคลาสสิก คิดว่าฐานะบุคคลในตำแหน่งที่จอร์จควรจะอยู่ก็คือตำแหน่งคอนดักเตอร์ ผู้ซึ่งจะทำเช่นไรให้สมาชิกผู้ร่วมงานแต่ละคนส่อและเปล่งประกายความสามารถที่บุคคลผู้นั้นมีอยู่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่สูญเสียบุคลิกของดนตรีที่ตนวางเอาไว้ และไม่ทำให้สมาชิกผู้ร่วมวงกลายเป็นจุดที่เด่นในดนตรี โดยทำให้ดนตรีที่ตนเป็นผู้นำเพลงกลายเป็นเพียงองค์ประกอบเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้ล่ะครับคือสิ่งที่ผมมองเห็นว่าจอร์จ เบนสัน ได้สร้างและทำดนตรีในรูปแบบที่ดีที่สุดชุดหนึ่งเท่าที่เขาเคยทำมาเลยทีเดียว ดนตรีในแต่ละเพลงในชุดนี้จอร์จอาจจะไม่ใช่พระเอกขี่ม้าขาวแสดงโอ้อวดและอหังการ์ในฝีมือออกมาให้ทุกคนประจักษ์ เสียงกีต้าร์ของจอร์จแม้ว่าจะเยี่ยมยอดแค่ไหน แต่ก็มองเห็นได้ชัดว่า ถ้าไม่มีองค์ประกอบส่วนอื่นที่สมบูรณ์เช้ามาสอดประสานรวมตัวกันกลมกลืนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้ว ดนตรีที่ออกมาอาจจะไม่สามารถมีความสมบูรณ์แบบในโครงสร้างได้เช่นนี้อีกแล้ว เขียนมาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะสงสัยว่า ถ้าจอร์จทำดนตรีเช่นนี้ขึ้นมา เขาจะไม่สูญเสียเอกลักษณ์หรือลักษณะเด่นในความเป็นศิลปินเดี่ยวไปหรือครับ ในสายตาผมนั้น ผมมองว่าถ้าใครจะเป็นโซโลอาร์ติสต์นั้น หนึ่ง เขาจะต้องสร้างดนตรีในแบบที่โชว์ออฟความสามารถส่วนตัวออกมาอย่างเต็มที่ เท่าที่เขาจะทำได้ แต่ไม่ทำให้ดนตรีชิ้นนั้นกลายเป็นเครื่องเล่นส่วนตัว โดยที่บุคคลภายนอกไม่เข้าใจ หรือมิฉะนั้นก็ทำดนตรีออกมาชิ้นหนึ่ง ให้โครงสร้างของดนตรีทุกรูปแบบสมาชิกที่เข้ามาร่วมงานด้วยทุกคนรวมทั้งตัวเองด้วยมีบทบาทเทียบเท่ากัน ทำให้รูปลักษณ์ของดนตรีที่ออกมา กลายเป็นดนตรีที่รวมตัวกันเข้าเป็นกลุ่มก้อน ไม่ใช่เดี๋ยวกีต้าร์เป็นพระเอก เดี๋ยวเพลงนั้นถ้าปราศจากนักร้องดนตรีที่ออกมาจะไม่ยิ่งใหญ่ จะไม่ไพเราะเท่า แม้กระทั่งตนเองก็ไม่ใส่อัตตาของตนลงไปจนลืมถึงสิ่งที่ตนต้องการเสนอออกมาในตอนต้น
พูดง่ายๆก็คือ ทำดนตรีออกมาให้ตนเองอยู่โดดเด่นเหนือโครงสร้างของดนตรีชิ้นอื่น ถ้าตนเองเป็นโซโลอาร์ติสต์ที่ถนัดเครื่องดนตรีรูปแบบใด หรือมิฉะนั้นก็ทำตนเองเข้าไปกลมกลืนกับดนตรีชิ้นนั้นเสียเลย สำหรับในชุดนี้จอร์จเลือกอย่างหลัง และเขาก็ทำได้ดีที่สุดแล้วด้วย ดนตรีทุกเพลงมีความเป็นตัวเองได้เด่นชัดเหลือเกิน จนไม่รู้ว่าจะพูดเช่นไร เรื่องนี้ก็คงต้องขึ้นกับรสนิยมสำหรับบุคคลแต่ละคนแล้วครับ ว่าจะชอบเพลงในชุดนี้เพลงใดมากกว่ากัน แต่สำหรับผม ผมอาจจะติดโครงสร้างดนตรีในรูปแบบของ เซอร์จิโอ แมนเดส เลยชื่นชอบเพลง Nothing's Gonna Change My Love For You มากที่สุดก็เป็นได้ ไม่ทราบเป็นเช่นไร ฟังดนตรีชิ้นนี้ทีไรคิดถึงเซอร์จิโอก่อนเพื่อนทุกที แต่อย่าไปแปลเจตนาดีของผมว่า จอร์จลอกเลียนมาก็แล้วกันนะครับ เพราะคนละเรื่องกันเลย สำหรับเพลง Stand Up ที่โชว์ลวดลายการพลิ้วสายกีต้าร์ของจอร์จนั้น บางคนก็อาจจะชอบมากเป็นพิเศษ อันที่จริงก็เพราะมาก แต่สำหรับผมแล้วฟังการเล่นกีต้าร์สไตล์นี้ของจอร์จบ่อยเหลือเกินในยุคหลังๆ อาจจะเรียกได้ว่าการเล่นกีต้าร์เช่นนี้เป็นเทรดมาร์คส่วนตัวของจอร์จ เบนสันในยุคปัจจุบันไปแล้ว ฟังดูก็เลยเฉยๆ เพลงนี้อาจจะออกมาเพื่อแฟนดนตรีในแบบคอนเซอร์เวทีฟของจอร์จยุคปัจจุบันก็ได้ อย่างน้อยจอร์จก็ใช้เสียงกีต้าร์ส่วนตัวบอกความในใจว่า เขายังไม่ลืมแฟนดนตรีในรูปแบบนี้ไปกันหรอก อีกเพลงสำหรับคนที่มีความรักเป็นสรณะอยู่ในหัวใจก็คือเพลง You Are The Love Of My Life ได้ฟังแล้วซึมเลยครับ จนอดคิดไม่ได้ว่า ใครฟังเพลงนี้แล้วไม่มีความรู้สึก คนคนนั้นคงหัวใจแข็งกระด้าง และไม่เคยมีความรักเข้าไปแผ้วพานในหัวใจกันเลย เพลงนี้ฟังแล้วเศร้า ฟังแล้วซึ้งครับ สั้นเหลือเกิน เพลงประเภทนี้ อาจจะเป็นความรู้สึกพาไปก็ได้นะครับ ถ้าใครมีโอกาสฟังเพลงนี้ดูแล้วบางครั้งการมองโลกในแบบตัวตนโดดเดี่ยว คงจะเข้าใจอะไรดีขึ้น ว่าความรักนั้นมีคุณค่าขนาดไหน
สำหรับดนตรีชุดนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบดนตรีดีๆ ฟังง่ายๆ (แต่ไม่ได้หมายความว่าเล่นง่ายๆนะครับ) ฟังดูดีๆจะต้องมีสักเพลงเป็นอย่างน้อยที่จะกลายเป็นเพลงโปรดของคุณไปอีกนาน สำหรับคนที่ชอบดนตรีป๊อบนั้นก็คงชัวร์แน่ว่าพลาดชุดนี้ไม่ได้ คนที่ชอบและเป็นแฟนจอร์จ เบนสัน มานาน อย่าพึ่งไปปักใจและด่วนตัดสินว่าดนตรีชิ้นนี้จะเป็นแจ๊สแท้ๆ เพราะสงสัยแนวแจ๊สที่สอดใส่เข้าไปในแต่ละเพลงนั้น คุณคงจะต้องควานกันเสียแล้ว และถ้าใครคิดว่า แหม ถ้ารู้ว่าแจ๊สฟังสบายหูเช่นนี้ ฟังมานานแล้ว บอกเสียก่อนนะครับว่าไม่จริง คิดอยู่ในใจมานานแล้วว่าถ้าหน้ากระดาษมีเพียงพอ จะนำดนตรีแจ๊สจากศิลปินที่คุณจะต้องไม่เชื่อว่าจะเล่นแจ๊สมาแนะนำ อย่างเช่น สตีฟ สมิธ มือกลองคณะเจอร์นีย์ มาแนะนำให้ฟัง แต่สำหรับชุดนี้เหมาะสำหรับใครก็ได้ที่มีความรักและชื่นชอบดนตรีที่ดีเท่านั้นก็พอครับ แต่ใจจริงส่วนตัวยังอยากจะฟัง จอร์จ เบนสัน ในฐานะศิลปินแจ๊สแท้ๆ เช่นที่เขาเคยทำมาในอดีตที่นานจนเกือบลืมไปแล้ว เช่นในอดีตอันเก่าก่อนที่ผ่านมา เอ๋ นี่ผมแก่แล้วมั้ง ที่อดจะคิดถึงแต่ดนตรียุคเก่าๆไม่ได้อยู่นั่นเอง
SP 202
No comments:
Post a Comment