หมายเลขแผ่น - SP -3735
แนวดนตรี - หน้าแรก เร็กเก้ ร็อค ฟิวชั่นแจ๊ส
หน้าสอง (เร็กเก้) ป๊อบ
โปรดิวเซอร์ - Hugh Padgham & The Police
ราคา - 350 บาท
ออกปี - 1983
สังกัด - A & M
ถ้าเราจะพูดกันจริงๆแล้ว คนไทยส่วนมากจะรู้จัก The Police ตอนที่ไนท์สปอตบอกว่าจะเอาวงนี้มาแสดงสดในเมืองไทย แล้วก็มีการโปรโมตกันไม่เบาทีเดียว ถึงวงนี้จะไม่ได้มาแสดงในไทย แต่ก็มีชื่อเสียงขึ้นมาไม่น้อยทีเดียว ถึงแม้ว่าไนท์สปอตจะถูกหาว่าเอาวงที่ยังไม่ดังมาแสดง แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายวงที่ไนท์สปอตเอามา เป็นวงที่มีอนาคตไฟแรง ไม่ต้องยกตัวอย่างอื่นไกล เอากันแค่วง Police นี่ก็ได้ ตอนนั้นชื่อเสียงของพวกเขากับปัจจุบันเรียกว่าห่างกันหลายขุมทีเดียว และวงนี้ไม่ใช่วงที่ดังขึ้นมาด้วยการโปรโมต (แน่นอนมีส่วน) แต่ก็ต้องยอมรับกันล่ะครับ ว่าแต่ละคนของ Police ระดับมืออาชีพทีเดียว
ผมเอาแผ่นของวงนี้มาพูดเป็นชุดที่ 3 แล้ว และสาเหตุที่ผมซื้อชุดนี้มาฟังหลังจากผิดหวังจากชุด Ghost In The Machine มา ก็เพราะว่าผมเก็บผลงานของวงนี้เป็นคอลเลกชั่นครับ กะว่าผลงานชุดนี้ไม่ดีขึ้นกว่าเดิมก็คงจะต้องตัดขาดกันแน่ พอซื้อเสร็จปั๊บรีบกลับมาบ้านเปิดฟัง บอกคำเดียวว่าผิดคาดครับ ไม่ใช่แผ่นชุดนี้ขึ้นอันดับ 1 แล้วผมจึงพูดเช่นนี้ ถ้าคุณรู้จักผม ผมเคยบอกกับคนหลายๆคนไปตอนออกใหม่ๆว่าประทับใจจริงๆ พอมีโอกาสได้ไปเลือกผลงานที่แบลงค์ก็เลยเลือกมาเขียนถึง เพราะไม่อยากจะเอาแผ่นไปแช่ไว้ที่สตาร์พิคส์ทั้งเดือน
ตอนดูชื่อแผ่นชุดนี้งงครับ แปลไม่ออก เพราะรู้จักศัพท์ว่า synchronize ไม่แน่ใจว่าเป็นศัพท์เดียวกันหรือเปล่า แต่หลังจากสอบถามแล้วจึงทราบว่า ชื่อแผ่นชุดนี้ถึงถูกล้อกันมากว่าตั้งชื่อแผ่นได้เข้ากับความสำเร็จของแผ่นเลย Synchronicity หมายถึง "ความสมบูรณ์ที่แนบสนิทเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน" หรือจะแปลว่าความสมบูรณ์ก็ได้ ที่ถูกล้อเพราะชุดนี้ประสบความสำเร็จขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกา อังกฤษ และ ยุโรป และอีกหลายๆประเทศ ไม่ใช่แค่แผ่นเท่านั้นที่ถึงอันดับ 1 เพลง Every Breath You Take ด้วยครับ
และชุดนี้เอง Police ก็คล้ายกับประกาศออกมาแล้ว่าวงนี้คือเขาทั้งสาม ไม่มีการเพิ่มสมาชิกอีก ซึ่งถ้าคุณจะสังเกตจะเห็นว่า พวกเขาใช้สีเหลือง ฟ้า และ แดง คาดเอาไว้ นั่นคือแม่สี และแม่สีมีคุณสมบัติใด คุณๆก็คงทราบกันดีแล้วนะครับ อย่างกับจะบอกว่า เขาทั้งสามคนคือแม่สีของ Police ผลงานเพลงทุกชิ้น เนื่องจากการประสมประสานความคิดและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงออกมาเช่นนี้ พวกนี้ผมคิดเอาเองนะครับ เพราะชื่อแผ่นแบบนี้คงจะไม่ตั้งขึ้นมาแบบมั่วซั่วหรอกครับ
เมื่อก่อนที่พวกเขาจะออกแผ่นชุดนี้ พวกเขาช่วยกันทำแผ่นซาวด์แทร็คออกมา ส่วนมากเป็นผลงานของ Sting จากภาพยนตร์ชื่อว่า Brimstone & Treacle ซึ่งมีผลงานของ Go-Go's และ Squeeze ผมกะจะเอามาแนะนำตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีช่วงโอกาสเลย ใครเห็นซาวด์แทร็คชุดนี้หามาฟังกันเองนะครับ เพราะน่าฟังดีมากเลยครับ อันนี้ที่เอามาแนะนำก็เพราะเห็นว่าเป็น Police เหมือนกัน ถึงผลงานของ Sting จะมากกว่าก็ตาม แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Police ใช่ไหมครับ
แผ่นชุดนี้ถ้าเราจะพูดกันจริงๆก็มีส่วนคล้ายๆจับจุดตลาดเอาไว้ได้เช่นนั้นคือถ้าจะให้พูดว่าผลงานตลาดเป็นเช่นไร ผมว่าคงกินใจความยาวมาก ที่เหมือนกับที่มีคนพูดว่านี่หนังน้ำเน่า นิยายน้ำเน่าอะไรพวกนี้ แต่ถ้าจะพูดกันว่านี่เป็นผลงานตลาดๆ ก็จะเป็นการดูถูก Police มากจริงๆ แบบที่เคยบอกไว้แล้วว่า ผลงานชุดนี้เป็นผลงานที่พบกันครึ่งทางระหว่างคำว่าพาณิชย์และฝีมือจริงๆ เพลงในหน้าแรกนอกจากเพลง Mother และ Miss Gradenko ซึ่งไม่ใช่ผลงานของ Sting แล้ว คุณจะเห็นได้เลยว่าพวกเขาลดความเป็นเร็กเก้ลง ให้เป็นร็อคมากขึ้น แต่ถ้าใครได้ฟังคงอดที่จะต้องยอมรับไม่ได้ว่า มันยังมีส่วนของเร็กเก้อยู่ คิดว่าคุณๆยังจำเพลง Roxanne กันได้ (จากชุด Outlandos D'Amour) แต่ถ้าจำไม่ได้ ถ้าใครดู 48 Hrs. อาจจะพอจำเพลงที่เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ ร้องตอนอยู่ในคุกได้นะครับ (ถ้าดู) นั่นล่ะครับ เพลง Roxanne ซึ่งถ้าคุณจะสังเกตหรือจับจุดนิดหน่อย เพลงในหน้าแรกของ Sting ก็ออกไปในลักษณะลีลานั้น คือฟังปั๊บ คุณจะไม่ชื่นชมทันที แต่คุณจะต้องรุ้สึกว่านี่เป็นเพลงที่เหมาะที่คนผิวดำจะร้อง ถ้า Sting สามารถสร้างความรู้สึกให้กับคนฟังให้รู้สึกได้ขนาดนี้ โดยที่เขาเป็นคนผิวขาวและอายุยังไม่มากถึงขนาด ถ้าเทียบกับความคิดที่เขาแสดงออกมา บอกจริงๆนั่นล่ะครับ ฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นเพลง Synchronicity I หรือ II โดยเฉพาะเพลง Walking In Your Footsteps ลักษณะเร็กเก้ที่ค่อนข้างเด่นชัด แต่ก็ยังมีลักษณะของดนตรีร็อคเอาไว้ด้วย นับถือจริงๆ
เพลง Mother ผลงานของ Andy Summers ก่อนที่จะพูดถึงความคิดเห็นของผม จะเล่าให้ฟังว่า นักวิจารณ์เมืองนอกเขาพูดถึงเพลงนี้ว่าอย่างไร บางคนพูดถึงเพลงนี้ว่า เป็นผลงานเพลงฟิวชั่นแจ๊ส ซึ่งช่วยขยายแนวทางให้ Police ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว แต่บางคนกลับพูดว่า Summers ไม่มีความคิดแล้วหรือ ถึงไปติดรูปแบบจากแผ่นชุด I Advance Masked ตอนร่วมงานกับ Robert Fripp ถ้าคุณถามผมว่า ใครพูดถูกใครผิด ก็ต้องบอกว่าถูกทั้งสองความคิดล่ะครับ เพราะเพลงนี้เป็นฟิวชั่นแจ๊สจริงๆ ในแบบเดียวกันกับเพลงจากแผ่นชุด I Advance ล่ะครับ ถ้าคุณไม่เคยฟังผลงานตอน Summers กับ Fripp ร่วมกันทำ แล้วอยากฟังล่ะก็ คุณจะได้ฟังจากเพลงนี้ล่ะครับ เพียงแต่ขอให้คุณตัดหรืออย่าไปใส่ใจตอนเสียงของ Summers เท่านั้นล่ะครับ อีหรอบเดียวกันเลย ตอนนี้ผมไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมถึงทำเป็นเพลงบรรเลงหมดทั้งแผ่น จากชุด I Advance เพราะเสียงของ Summers ไม่ได้เรื่องเลย แต่ขอบอกไว้เลยว่า ชุด I Advance Masked เป็นผลงานที่ดีนะครับ เดี๋ยวจะนึกว่าไม่ดีแล้วจะพลาดแผ่นดีๆกันไป
ส่วนเพลง Miss Gradenko ฝีมือของ Stewart Copeland ผู้ก่อตั้ง Police บอกจริงๆไม่เห็นมีอะไรที่จะบอกความเป็นตัวของตัวเองเลย ดูไปยังกับเป็นเพลงที่ Sting แต่งอย่างไรอย่างนั้น แต่ถ้าพูดถึงฝีมือการเล่นกลอง ผมว่า Stewart เก่งนะครับ เล่นกลองได้หลายแนวจัง แล้วคุณๆสังเกตบ้างไหมครับ บางตอนของเพลงในชุดนี้ยังกับมีเสียงซินธีไซเซอร์งั้นล่ะ แต่ก็ไม่เห็นมีรายละเอียดผู้เล่นไว้เลย หรือ Andy Summers เล่นกีต้าร์ซินธีไซเซอร์ก็ไม่ทราบ แต่เสียงไม่น่าที่จะสดใสถึงขนาดนี้นะ ผมว่า
ในหน้าสองนั้นเองแผ่นชุดนี้คิดว่าจะเป็นเพลงที่ติดหูคนฟังเพลงทั่วๆไปได้แน่นอน เพราะคนที่เคยสร้างดนตรีที่ค่อนข้างยากมาแล้วในอดีตมาจับดนตรีในแบบจังหวะที่ตนถนัด แต่ทำให้สละสลวย นุ่มนวล อ่อนโยนขึ้น อย่างเพลง Every Breath You Take ที่คุณๆนักฟังเพลงก็คงจะคุ้นหูกันมาแล้วใช่ไหมครับ หรืออย่างเพลง King Of Pain ซึ่งถ้าคุณฟังในแบบปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ Every Breath แล้วล่ะก็ คุณอาจจะไม่ทันได้สังเกตว่าทั้งสองเพลงนี้แตกต่างกันเลย เพราะความน่าปล่อยอารมณ์ในเวลาฟังของคุณจะล่องลอยไปตามกระแสเสียงของดนตรีของ Police เอาจริงๆ
ดังนั้นเพลง Wrapped Around Your Finger และ Tea In The Sahara ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะในหน้าที่สองนี้ แนวดนตรีของ Police ส่วนมากเหลือเกินในแง่ความไพเราะ เรียกว่าถ้าจะรักตัดเป็นซิงเกิ้ล ก็คงจะตัดได้ทั้งหมดในหน้าสองนี่ล่ะครับ
แต่ครั้งนี้จะขอพูดถึงบริษัทแม่คือ A&M สักสองข้อ ข้อแรกก็คือ จริงอยู่ราคาเทปในเมืองนอกอาจจะแพงกว่าแผ่นเสียง หรือเท่ากันก็ตาม แต่สำหรับในเอเชีย โดยเฉพาะเมืองไทย ราคาเทปถูกกว่าแผ่นประมาณ 5-6 เท่านะครับ เราจะไม่พูดกันถึงรายละเอียด เพราะเป็นคนละเรื่อง เพราะเทปไม่เหมาะสำหรับสะสม เพราะเหตุผล108 ที่ไม่ส่งให้ แต่ถ้านักฟังเพลงกลุ่มหนึ่ง ต้องซื้อของที่ราคาแพงกว่า แต่มีจำนวนเพลงน้อยกว่า มันถูกมันควรแล้วหรือครับ ในแผ่นนี้มีเพลงทั้งหมด 10 เพลง แต่ในเทปมี 11 เพลง โดยมีเพลง Murder By Numbers ซึ่งเป็นเพลงในหน้าสองของซิงเกิ้ล (จากข่าวที่ทราบนะครับ) แน่อน A&M อาจจะต้องการต่อสู้กับเทปผี แต่เป็นการกระทำที่ไม่รู้จะพูดเช่นไรเลย เราไม่ต้องพูดกันหรอกครับว่าเพลง Murder By Numbers เป็นเช่นไร แต่คนที่เสียเปรียบก็คือผู้บริโภคที่เขาเสียเงินเท่านั้นเอง แย่จริงๆ
ข้อสองก็คือ ข้อนี้ทราบมาจากบริษัทแบลงค์เลยนะครับ ว่ากระดาษหน้าปกเทปส่งมาจากบริษัทแม่ที่สิงคโปร์ ไม่ต้องบอกเหตุผลนะครับ แต่จะขอว่าบริษัทแม่เสียหน่อย นี่ไม่ได้พูดถึงบริษัทจัดจำหน่ายในเมืองไทย เพราะเขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ คือเพลง Synchronicity II ไม่ใช่เพลง Synchronicity 11 นะครับ ลองเป็นบริษัทแม่แล้วทำงานเช่นนี้ เขาเรียกว่าคนมีความรับผิดชอบไหมครับ เพราะมันคนละความมายเลยนะครับ
ที่พูดถึงสองเรื่องนี้ พูดให้ฟังถึงการทำผลงานนะครับ แต่ถ้าเราพูดกันแค่ผลงานของ Police คิดว่าผลงานชุดนี้จะเป็นชุดที่น่าฟังอีกชุดในปีนี้ทีเดียวในสายตาของผมครับ
SP 182
SP 182
No comments:
Post a Comment