นี่เป็นการนำแผ่นเก่ามาแนะนำเช่นที่เคยให้สัญญาไว้ หลังจากเว้นว่างไปสองฉบับเพราะไม่ว่างจริงๆ ที่จริงเดือนนี้ก็มี LP มาเขียนมากมายแล้ว
LP ชุดนี้เป็น LP ชุดที่สองของ Led Zeppelin ออกในปี 1969 ก็เป็นเวลาเกือบ 13 ปีแล้ว ในเมืองนอกเขายกย่องมากในฐานะเป็นเฮฟวี่ที่ดีที่สุดแผ่นหนึ่งของโลก และเขาถือว่าวงนี้ถึงจุดสุดยอดของวงการดนตรีแล้วจาก LP ชุดนี้ ชุดอื่นที่ทำออกมา อย่างดีก็เทียบเท่ากับชุดนี้เท่านั้นเอง
แต่สำหรับความคิดของนักวิจารณ์เมืองนอก ผมคิดว่าถูก แต่ไม่ทุกอย่างหรอกครับ สำหรับผมแล้ว ผมไม่ถือว่าชุดนี้เป็น LP ที่เรียกว่าเฮฟวี่ ฮาร์ดร็อค ได้เต็มปากเต็มคำนัก เพราะถ้าจะพูดกันให้เต็มปากเต็มคำแล้ว ผมว่าชุดนี้น่าจะเรียกว่า เฮฟวี่บลูส์ร็อค มากกว่า มันจะสมบูรณ์แบบมากกว่านะครับ เพราะชุดนี้แทบทุกเพลงมีแนวของเพลงบลูส์สอดแทรกประสมประสานเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด LP ชุดนี้มีอิทธิพลของแนวดนตรีคณะ Yardbrids ที่ Jimmy Page เคยอยู่มากทีเดียว แต่ก็ทำได้สมบูรณ์แบบกว่ากันมาก อ้อ! บอกเสียก่อนนะครับ ผมไม่มี LP ของ Yardbirds หรอก แต่เคยมีโอกาสฟังเมื่อ 6 ปีก่อน กะว่าจะซื้อแล้วแต่ไม่ทัน เพราะไม่ได้เตรียมเงินไป เลยได้แต่นั่งฟัง พอวันรุ่งขึ้นจะไปเอาก็มีคนเอาไปแล้ว เลยพอจะรู้ว่าแนวดนตรีของ Yardbirds นั้นเป็นเช่นไร ถ้าท่านอยากรู้ว่าเล่นแนวไหน ก็ฟัง LP ชุดที่ 1 และ 2 คือแผ่นนี้ของ Led Zeppelin แต่ต้องนึกว่า Yardbirds เล่นไม่รุนแรงเท่านี้ อ่อนกว่ากันมาก
อย่างที่บอก LP ชุดนี้มีแนวดนตรีบลูส์ผสมอยู่มาก ไม่ใช่เอามาผสมเท่านั้นนะครับ แต่เล่นออกมาได้อย่างเด่นชัดทีเดียว โดยการนำเอาเพลงเฮฟวี่และเพลงบลูส์มาประสมประสานกันอย่างได้ยอดเยี่ยมมาก และผมก็ยังไม่เคยเห็น LP ชุดไหนอีกเลยที่สามารถนำเพลงเฮฟวี่และเพลงบลูส์มาผสมกันได้วิเศษอย่างนี้ แม้แต่ LP ชุดถัดๆมาก็เถอะ ยังไม่สามารถทำได้เลย และผมก็คิดว่า Led Zeppelin คงจะทราบดี เขาถึงพยายามจะลดแนวเพลงบลูส์ลงมาจนค่อยๆหายไปเรื่อยใน LP ชุดถัดๆมา แต่ใน LP ชุดล่าสุดในชุด In Through The Out Door ท่านจะเห็นว่าได้เริ่มกลับมาสู่แนวเดิมแล้ว ในเพลง I'm Gonna Crawl และก็ทำได้ดีเสียด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายที่วงถึงตอนแตกแยกกันไปก่อน เนื่องมาจากการตายของ John Bonham มือกลอง ไม่เช่นนั้นเราอาจจะได้เห็น LP ในแบบเฮฟวี่บลูส์ร็อคที่ดีเด่นอีกก็ได้
ใน LP ชุดนี้ ผมว่าสมาชิกแต่ละคนของคณะได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถเฉพาะตัวอันสุดยอดของฝีมือของพวกเขาอย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ว่าจะเป็น Jimmy Page ได้แสดงฝีมืออันเฉียบขาด ไม่ว่าจะเป็นในแบบรุนแรง โชว์เทคนิค หรือแสดงถึงฝีมือลีดกีต้าร์อันเฉียบขาดของเขา ผมว่าเพลงที่เขาลีดกีต้าร์ได้เยี่ยมมากใน LP ชุดนี้คือเพลง Heartbreaker และเพลง Living Loving Maid (She's Just A Woman) (เพลง Whole Lotta Love จะเอาไว้กล่าวทีหลัง) ที่ผมบอกว่าลีดกีต้าร์ได้ยอดเยี่ยม ทำไมผมถึงบอกแค่สองเพลงนี้ เพราะสองเพลงนี้เปิดช่วงช่องว่างให้เขามาก ในขณะที่เพลงอื่นเป็นเพลงในแนวบลูส์ที่เรียกว่า เขาต้องเล่นกีต้าร์ตามเกมส์ (เพลง) จะมีโอกาสโชว์ลวดลายทางกีต้าร์ต้องเป็นไปในแบบที่ยากเย็นมาก แต่เขาก็โชว์ลวดลายกีต้าร์แทบทุกเพลงนะครับ แต่เป็นไปในลักษณะฟังยากเย็น อย่านึกว่าเล่นแบบ Jimmy Page นั้นจะเล่นได้ง่ายๆนะครับ ถ้าท่านเคยฟังเพลงบลูส์มาก่อน จะทราบว่าเพลงบลูส์นั้นเล่นกันอย่างมีแบบแผน แต่ Jimmy Page เล่นกีต้าร์ในแบบแหวกแบบแผนออกมา แต่ก็ทำให้คนฟังไม่มีความรู้สึกเลยว่าเขาได้แหวกแบบแผนของเพลงบลูส์ออกมาแล้ว ท่านคิดว่ายากไหมครับ ลองคิดดูเอาเองนะครับ
สำหรับ Robert Plant นั้นมีโอกาสได้โชว์เสียงร้องอันทรงพลังจริงๆ การเป็นนักร้องที่ดีนั้น ไม่ใช่ร้องถูกอักขระ ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงดี เท่านั้น แต่จะต้องรู้จักด้วยว่าจังหวะไหนควรจะร้องในแบบหนัก ตอนนั้นควรเบา ตอนนั้นควรขึ้นเสียงสูง ตอนไหนควรเสียงต่ำ Robert Plant ทำได้ดีทั้งนั้น และทำได้ดีมากเสียด้วย และเสียงของเขาไม่มีคำว่าถูกดนตรีกลบเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลงอะไรก็ตามใน LP ชุดนี้ ผมว่าเขาเป็นนักร้องผิวขาวอีกคนหนึ่งที่สามารถร้องเพลงบลูส์ได้ยอดเยี่ยมมาก และอยากให้สังเกตเพลง Heartbreaker กับ Living Loving Maid (She's Just A Woman) ซึ่งเป็นเพลงที่ต่อเนื่องกัน เขาร้องคนละคีย์เพลง แต่สามารถทำให้คนฟังไม่มีความรู้สึกเลยว่าปรับตัวในการฟังไม่ทัน ถึงแม้จะรู้ว่าคนละคีย์ก็ตาม เยี่ยมจริงๆ
ส่วน John Paul Jones ที่เป็นมือเบสนั้น นับว่า LP ชุดนี้เป็น LP ที่มีเพลงบลูส์เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย จึงมีโอกาสได้โชว์เบส เพราะใน LP ชุดแรกของ Led Zeppelin นั้น Jimmy Page เด่นมาก ส่วนมากวงไหนก็ตาม มือกีต้าร์มักเด่นกว่าคนอื่นๆเสมอ แต่ใน LP ชุดนี้ John Paul Jones ได้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า ถ้าไม่มีเขา Led Zeppelin อาจจะไม่สามารถเล่นเพลงดีๆอย่างนี้ได้ดีเท่านี้ ใช่ครับ อาจจะมีคนที่เก่งกว่า หรือเก่งพอๆกับเขา แต่ในสมัยนั้นจนถึงปัจจุบัน ผมว่าเขาก็ยังเป็นมือเบสที่หาคนเทียบยากอยู่ดี ขอให้ฟังเพลง The Lemon Song ฝีมือเบสของเขานั้น ทำให้เสียงกีต้าร์ของ Jimmy Page ด้อยลงไปเลย จริงอยู่ เพลงนี้เป็นเพลงที่เบสมีบทบาทเด่นมากกว่ากีต้าร์ แต่ฝีมือกีต้าร์ของ Jimmy Page นั้นน่ะ ยอดขนาดไหน เพลงธรรมดาๆยังสามารถทำให้เพลงนั้นกลายเป็นเพลงดีเด่นขึ้นมาได้ และถ้าไม่ใช่ John Paul Jones มีฝีมือจริงๆแล้ว เพลงนี้เบสจะเด่นได้ถึงขนาดนี้หรือ นักวิจารณ์เมืองนอก ยกย่องว่าฝีมือเบสของเขาดีเท่ากับ Jack Bruce ทีเดียว ผมก็ว่าเช่นนั้นล่ะครับ แต่ผมคิดว่าฝีมือเบสของ John Paul Jones หลังจาก LP ชุดนี้แล้วดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ Jack Bruce นั้น ฝีมือพัฒนาขึ้นจริง แต่ค่อนข้างช้ากว่า เทียบ LP ชุดใหม่กับชุดใหม่ด้วยกันใน LP ชุด B.L.T. อาจจะเป็นเพราะผมไม่ได้ประทับใจใน LP B.L.T. ก็ได้จึงพูดเช่นนี้ ด้วยเหตผลนี้ผมจึงไม่ได้ซื้อ LP B.L.T. เลยไม่ได้ฟังละเอียดก็ได้ จึงยังไม่ได้เห็นสิ่งที่ดีๆจาก LP ชุดนั้น (เพียงฟังผ่านๆ)
และคนสุดท้ายคือ John Bonham ผู้จากไป มือกลองผู้ยิ่งใหญ่ ใน LP ชุดนี้มีเพลงโชว์เดี่ยวกลองของเขาอยู่นะครับ คือเพลง Moby Dick ก็สมชื่อล่ะครับ (ท่านทราบไหมครับ Moby Dick คืออะไร เป็นชื่อปลาวาฬยักษ์ครับ เป็นวรรณกรรมชื่อก้องอีกเรื่องหนึ่ง เคยอ่านตอนเป็นเด็กๆและเคยนำมาสร้างเป็นหนังใหญ่ดังมากเลย) และท่านสังเกตการตีกลองของเขาให้ดีนะครับ ตีได้ทรงพลังจริงๆ แต่การตีนั้น เขาก็ยังรู้จักจังหวะหนักเบา ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาโชว์แต่ฝีมือหวดกลองกันลูกเดียว เพลง Moby Dick นี้เป็นเพลงนะครับ มีท่วงทำนอง มีลีลา มีความรู้สึกของดนตรีที่แฝงอยู่ในเสียงเพลง และนั่นล่ะ ก็คือความสามารถที่แท้จริงของเขา ผมว่า Led Zeppelin คิดถูกแล้วที่แยกจากกันเนื่องจากการตายของเขา ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีใครเก่งกว่าเขาอีกแล้ว แต่เป็นเพราะว่า Led Zeppelin ก็คือ Jimmy Page, Robert Plant, John Paul Jones และ John Bonham ที่ขาดคนใดคนหนึ่งไป ก็ไม่ใช่ Led Zeppelin แม้ว่าเขาสามารถหาคนแทนได้ และสามารถสร้างผลงานที่ดีเด่นกว่าเก่าได้ แต่มันก็ไม่ใช่ Led Zeppelin เพราะ Led Zeppelin คือคนสี่คนที่กล่าวมาแล้ว ในความรู้สึกของคนฟังที่มีต่อ Led Zeppelin และต่อความรู้สึกของผมด้วย
มีเพลงหนึ่งที่อยากจะพูดถึงเป็นพิเศษคือ Whole Lotta Love ที่อยากพูดถึงเป็นพิเศษเพราะ เพลงนี้ตามความรู้สึกของผมไม่ใช่เพลงครับ เพลงนี้น่าจะเรียกว่ามหากาพย์ของวงนี้ทีเดียว รวมความสามารถของคนทั้งสี่เข้าไว้ด้วยกัน ไม่มีใครเด่นกว่ากัน และไม่มีใครด้อยกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการลีดกีต้าร์ การดันสายกีต้าร์ หรือลูกเล่นกีต้าร์ของ Jimmy Page การร้องอันทรงพลัง คุมเสียงร้องอันยิ่งใหญ่ของตนเองให้แสดงออกมาของ Robert Plant การคุมจังหวะของดนตรีที่หนักหน่วงรุนแรงไม่ให้ออกมานอกลู่นอกทาง และยังสามารถแสดงลูกเล่นเบสของ John Paul Jones เสียงกลองอันทรงพลัง กระหึ่มกึกก้อง แต่ก็ไม่ทำให้ท่วงทำนองหรือจังหวะของเพลงเสียของ John Bonham ทั้งสี่อย่างนี้รวมกันเข้าคือเสียงมหัศจรรย์ที่รวมกันเป็น Whole Lotta Love ไม่มีคำไหนที่จะกล่าวมากไปกว่านี้อีกแล้วว่าเพลงนี้คือเพลงมหากาพย์ของวงนี้ ไม่ว่าวงนี้จะสร้างผลงานที่ดีเด่นมาอีกมากมาย แต่อย่างมากก็เทียบเท่า แต่ก็มีเพลงอีกหลายๆเพลงของวงนี้ที่ดีกว่าเพลงนี้ แต่ทว่าเป็นการดีกว่าเพียงด้านใดด้านหนึ่ง เช่นอาจลีดกีต้าร์ได้หวานกว่า หรืออะไรพวกนี้ อาจดีกว่ากันหลายๆด้าน แต่เพลงเหล่านั้นก็ไม่มีความดีเพียบพร้อมทุกๆด้านเช่นเพลงนี้ บอกเช่นนี้ท่านคงเข้าใจนะครับ
เพลงจาก LP ชุดนี้ ดีเด่นแทบทุกเพลง อาจจะพูดได้ว่าเพลงใดเพลงหนึ่งอาจจะเป็นเพลงเอกใน LP ธรรมดาๆได้อย่างสบายๆ
ถ้าจะพูดถึงการให้ดาว เพลงบางเพลงอาจจะเคยได้ 2 ดาว แต่ต่อไปอนาคตดาวอาจเพิ่มได้ก็เป็นไปได้ หรือบางเพลงอาจได้ 4 ดาว แต่ต่อไปดาวอาจจะน้อยลงก็ได้ มันขึ้นอยู่กับคุณค่าของเพลง แต่ส่วนมาก ดาวที่ให้ก็จะเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว มีหลักเกณฑ์อย่างที่เคยบอกไปแล้ว และมีข้อย่อยอีกมากมาย ไม่ขออธิบายนะครับ แต่ที่พูดว่าดาวอาจจะเพิ่มหรือลดนั้น ผมใช้คำว่า "อาจ" เท่านั้นนะครับ
แต่ส่วนมากแผ่นเก่าๆที่คัดมาลงนั้นจะอยู่ในระดับ 4 ดาวทั้งนั้นล่ะครับ และ LP ชุดนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมคิดว่า LP ชุดนี้เป็นชุดที่สมบูรณ์มากอีกชุดหนึ่ง แต่ผมไม่ขอเรียก LP ชุดนี้ว่าเฮฟวี่ฮาร์ดร็อคหรอกครับ ผมจะเรียกว่า เฮฟวี่ฮาร์ดบลูส์
LP ชุดนี้สังกัดบริษัท Atlantic ในเมืองไทย ไนท์สปอตจัดจำหน่ายราคาก็คงประมาณ 170 บาท และรู้สึกว่าไนท์สปอตจะสั่งมาครบทุกชุดนะครับ อ้อ! ยกเว้นชุด In Through The Out Door ถ้ามีเงินเพียงพอก็ลองกวาดให้ครบทุกชุดสิครับ สำหรับ LP ของ Led Zeppelin ที่ผมคิดว่าน่าสะสมสำหรับคนที่ยังไม่เคยมี LP ของวงนี้มาก่อนเลยคือชุด Led Zeppelin, ชุดนี้, III, IV (The Runes Album) ทั้ง 4 ชุดนี้จัดว่ายอดมาก บางชุดผมก็ยังไม่มี ก็ยังกะว่าจะไปซื้ออยู่เหมือนกัน LP ชุดอื่นของวงนี้ที่ยังไม่ได้เอ่ยชื่อไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดีนะครับ แต่อยากให้ซื้อ LP พวกนี้ก่อน สำหรับผู้ที่ยังไม่มีเลย เพราะทั้ง 4 ชุดนี้เป็น LP ที่สามารถทำให้ท่านได้เห็นแนวดนตรีของ Led Zeppelin ได้เด่นชัดที่สุดครับ
และในฉบับหน้า LP ที่กำจะนำมาลงแน่ๆคือ Brand X และแผ่นเก่าคือ Yessongs
SP 163
SP 163
No comments:
Post a Comment