ไม่ทราบว่าเมืองไทยมีคนรู้จักวง Brand X สักเท่าไหร่กันแน่ แต่ผมคิดว่าพอจะนับจำนวนคนได้ทีเดียวสำหรับคนที่รู้จักวงนี้ เพราะขนาดในเมืองนอกก็มีคนรู้จักน้อยมาก ถ้าจะเทียบกันตามจำนวน และถ้าเคยเป็นคนที่เคยฟังเพลงจากวง Brand X ด้วยแล้ว ผมว่ามันคงจะน้อยมากๆเอาการเลยทีเดียว
ดังนั้นจึงต้องขอออกตัวก่อนว่าแผ่น Brand X นี้ไม่ใช่การวิจารณ์ (ไม่อยากจะใช้คำว่าวิจารณ์เลย ผมไม่มีความสามารถพอที่จะไปวิจารณ์แผ่นต่างๆได้หรอกครับ เอาเป็นว่าต่อไปนี้จะใช้คำว่าพูดคุยถึงแผ่นนี้แผ่นนั้นกันดีกว่านะครับ) เพียงแต่นำมาพูดถึงเพราะต้องการขยายขอบเขตของวงๆนี้ให้กว้างขึ้นอีก เผื่อท่านเห็นแผ่นของวงๆนี้มีมาขาย ท่านจะได้รู้ว่าวงนี้เขาเล่นกันในแนวไหน
แหม พอพูดถึงแผ่นของวงๆนี้แล้วเจ็บใจครับ ตอนนั้นผมเห็นแผ่นของวงนี้มาวางขายที่ร้าน Music Lover's จำชื่อแผ่นไม่ได้แล้ว หน้าปกแผ่นเป็นรูปจระเข้ เกิดนึกขึ้นได้แต่ก็สายเกินไปแล้ว เพราะไม่มีเงินซื้อ พอมีเงินจะไปซื้อ เกิดมีมือดีมาเอาไปซะก่อน ดังนั้นจึงได้บอกว่าวงนี้มีคนรู้จักบ้างในเมืองไทย ผมโดนเช่นนี้บ่อยครับ จะเล่าให้ฟังอีกสักเรื่อง ตอนนั้นแผ่น Smallcreep's Day ของ MIke Rutherford มีมาขายพร้อมกับแผ่น Ian Hunter ชุด Live ผมคิดว่าคงไม่มีใครรู้จัก Mike Rutherford หรอก เอาไว้ก่อน พอมีเงินแล้วค่อยกลับไปซื้อ ตอนนี้เอาแผ่น Ian Hunter ไปก่อน พอมีเงินจะกลับมาเอาแผ่น Mike ปรากฎว่ามีคนเอาไปก่อนแล้ว นึกถึงเรื่องพวกนี้ยังเจ็บใจตัวเองไม่หาย ที่จริงยังมีอีกหลายๆเรื่องนะครับ
เอาล่ะครับ กลับมาพูดถึงเรื่อง Brand X กันต่อ วงนี้ไม่ใช่วงที่เล่นดนตรีเพื่อการค้า แต่เขาเล่นเป็นแบบศิลปะกันทีเดียว ดังนั้นจึงไม่ดัง เพราะเพลงของเขาฟังยาก รู้สึกว่าแผ่นที่ขายดีที่สุดจะชื่อ Product นะครับ ที่บอกว่าวง Brand X เล่นกันในแบบศิลปะนั้นไม่ใช่ผมฟังดนตรีเก่งกาจอะไรนักหนาหรอกครับแต่มันเป็นสัญชาตญาณหรือความรู้สึกส่วนตัวที่ผมมีต่อดนตรีของ Brand X แม้กระทั่ง Pink Floyd ยังเล่นดนตรีในแบบพาณิชย์บันเทิงกันเลย แล้วแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น คือถ้าเอาไปเทียบกับวงอื่นๆแล้ว ดนตรีในแนวของ Pink Floyd มีรูปแบบพาณิชย์บันเทิงน้อยมาก แต่ถ้าเทียบกับวงของ Pink Floyd เองแล้ว แผ่นบางแผ่นมีรูปแบบของพาณิชย์บันเทิงอยู่มากทีเดียว เช่น Wish You Were Here และในสายตาของผมแผ่น Atom Heart Mother ของ Pink Floyd จะไม่มีรูปแบบของคำว่าพาณิชย์บันเทิงอยู่เลย แม้กระทั่งแผ่น Dark Side Of The Moon ยังมีรูปแบบของพาณิชย์บันเทิงให้เห็นอยู่บ้าง แต่เป็นประเภทที่ไม่เด่นชัดนัก จึงสามารถทำให้คนฟังรับได้ง่ายขึ้นหน่อย
ท่านผู้อ่านรู้จักดนตรีในแบบ อาวองท์-การ์ด (Avant-Garde Music) กันสักแค่ไหน เป็นรูปแบบดนตรีที่ค่อนข้างล้ำยุคเสียหน่อย ไม่ใช่ดนตรีในแบบที่จะฟังกันเล่นๆ ซึ่งดนตรีของ Brand X ก็เป็นรูปแบบนี้ล่ะครับ แต่ก็คงไม่ใช่ในแบบ Avant-Garde แท้ๆ และถ้าจะบอกว่าเป็นในแบบโปรเกรสซีพร็อคก็ไม่ใช่ ทั้งนี้เพราะดนตรีของ Brand X หนักกว่า ลึกล้ำกว่าดนตรีในแบบโปรเกรสซีฟร็อคมากทีเดียว แต่ก็ยังไม่ใช่ในแบบคลาสสิคคัลร็อค ครับ ถ้้าใครเคยฟังดนตรีของ Brand X มามากและสามารถให้คำจำกัดความดนตรีแบบนี้ได้ก็ช่วยบอกด้วยนะครับ
ดนตรีในแผ่นของ Brand X ส่วนมาก 99 เปอร์เซ็นต์จะเป็นการบรรเลง ไม่ใช่เฉพาะในแผ่นนี้หรอกครับ รู้สึกจะทุกแผ่นของเขาเลย จึงยากแก่การทำความเข้าใจ คือใครมีความคิดเช่นไร ความรู้สึกอย่างไรก็มีสิทธิ์จะตีความกันเองตามความรู้สึกนั้น
นักดนตรีของ Brand X ที่ดังและพอรู้จักก็มี Phil Collins ใช่ครับ มือกลองคณะ Genesis แต่ก็ไม่ใช่สมาชิกประจำหรอกครับ แต่เป็นผู้ที่คอยสนับสนุนวง Brand X แค่นั้น ในวง Brand X นั้น Phil ก็เล่นกลอง,ร้องนำ และเล่นเปียโนให้ในบางเพลง Morris Pert เป็นผู้เล่นเครื่องเพอร์คัสชั่น (เครื่องเคาะจังหวะ) มีฝีมือรอบตัวทีเดียว ขนาด Paul McCartney ออกแผ่น Back To The Egg ยังเคยขอคำปรึกษาจาก Morris Pert เลยครับ นอกนั้นก็มี John Goodsall เป็นผู้เล่นกีต้าร์ และเป็นผู้แต่งเพลงให้กับวงมากที่สุด Percy Jones เล่นเบส Robin Lumley เล่นเปียโน สมาชิกในวงแต่งเพลงเป็นทุกคนครับ
ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วตั้งแต่ต้นว่าดนตรีของ Brand X นั้นฟังยาก ไม่ใช่เพลงที่เพราะ แต่เข้ากับสุภาษิตของวงการเพลงที่ว่า "เพลงที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงที่เพราะ" ดังนั้นถ้าท่านจะต้องซื้อแผ่นของวงนี้มาฟังจงคิดดูให้ดีเสียก่อน ถ้าท่านไม่เคยเล่นเพลงในแนวโปรเกรสซีฟร็อค (ที่ต้องใช้คำว่าโปรเกรสซีฟร็อคเพราะเป็นดนตรีในขั้นพื่นฐานของดนตรีที่ล้ำยุค) ก็อย่าได้ซื้อแผ่นนี้ไปฟัง เพราะท่านจะพบกับความผิดหวัง ว่าวงอะไรวะ เล่นเพลงบ้าๆบอๆ ฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลย แต่ถ้าท่านเป็นนักฟังเพลงโปรเกรศซีฟร็อคอยู่ประจำ และต้องการฟังเพลงในรูปแบบที่ยากขึ้นไปกว่านั้นมากๆ ผมขอบอกว่าวงนี้ล่ะครับที่ท่านจะไม่ผิดหวังเลย สำหรับผมถ้าเห็นแผ่นของวงนี้ก็จะไม่พลาดเด็ดขาด เหมือนกับครั้งที่แล้วๆมา ผมสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วครับ
แผ่นของ Brand X แผ่นนี้ไม่ใช่แผ่นใหม่ ออกตั้งแต่ปี ๑๙๗๗ โน่น ตั้ง ๔ ปีแล้ว แต่ที่นำมาพูดถึงเพราะอยากให้ท่านได้รู้จักวงนี้บ้าง ในการฟังเพลงหรือดนตรี ผมอยากให้ทุกๆท่านเป็นนักฟังเพลง ฟังดนตรี ให้ฟังเพราะชอบเพราะรักเป็นหลัก อย่าไปฟังเพราะแผ่นนี้ดัง วงนี้ดัง ขอให้ฟังเพราะชอบเพราะรักด้วยตัวเอง ไม่ใช่ความดังของวงเป็นหลัก
ผมรักคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ที่มีเหตุผล ไม่ใช่พูดออกมาโดยไร้ซึ่งเหตุผล โดยฟังคนอื่นเขาพูด หรือไปเห็นไปได้ยินมาจากที่อื่น โดยยังไม่รู้ข้อมูลที่แท้่จริง ใน SP. ฉบับเดือนเมษายน ๒๔ ได้อ่านคอลัมน์ที่ตรงนี้คุณเขียนเห็นข้อเขียนของคุณ Dave (คนขี้รำคาญ) ในห้วข้อ "รำคาญ" ผมมีความรู้สึกชื่นชอบในตัวของคุณมาก เพราะมีความรู้สึกเป็นตัวของตัวเองในด้านการฟังเพลง มีความรู้สึกเช่นไรก็เขียนไปเช่นนั้น ทั้งๆที่วงบางวงที่คุณ Dave ยกตัวอย่างมาผมไม่เห็นด้วย แต่บางวงผมก็เห็นด้วย โดยเฉพาะข้อความที่คุณ Dave เขียนถึงวง Gamma ของ Ronnie Montrose ตั้งแต่อยู่ร่วมกับ Edgat Winter นับว่าคุณ Dave มีความคิดเป็นตัวของตัวเองมากทีเดียว และผมก็เชื่อว่ายังมีนักฟังเพลงจำนวนมากที่มีลักษณะการฟังเพลงในรูปแบบของตัวเอง มิฉะนั้นวงฝีมือดีๆจะไม่ได้รับความสำเร็จเลย ถ้าไม่มีนักฟังเพลงที่กล่าวมานี้
SP 157
SP 157
No comments:
Post a Comment