LP ชุดล่าสุดจากคณะ Utopia หลังจากที่ Todd Rundgren หัวหน้าวงหรือพ่อมดแห่งดนตรีอีเลคโทรนิคไปออก LP ส่วนตัวทำคนเดียวในชุด The Hermit of Mink Hollow ซึ่ง Todd เล่นดนตรีคนเดียวหมดทุกอย่าง และ LP Live อีกชุดหนึ่ง แต่ในนามของวง Utopia แล้วไม่มี LP ใหม่ออกมาเลยเป็นเวลาถึง 2 ปีแล้ว หลังจากชุด Oops! Wrong Planet ในที่สุด Utopia ก็ออก LP ชุดใหม่มาอีกครั้ง สมาชิกไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่คราวนี้ Utopia ก้าวไปไกลมาก จาก LP ชุดที่แล้วที่พาท่านไปหาความลึกลับแห่งปิรามิด แต่ในชุดใหม่นี้ Utopia พาท่านไปท่องเที่ยวถึงดินแดนพระศรีอารย์แล้ว ซึ่งเป็นดินแดนแห่งความบริสุทธิ์ เราลองมาดูกันว่า Utopia ภายใต้การนำของ Todd Rundgren จะทำดนตรีออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งแนวดนตรีของ Utopia จะเรียกว่า Progressive Rock ก็ไม่ได้ Rock ธรรมดาก็ไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ Todd สามารถสร้างแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองออกมาได้โดยสวยงามและไม่ต้องไปตามจมูกใครด้วย ถึงแม้ว่าแฟนของ Todd จะไม่มากมายอะไรนัก แต่เขาก็เป็นผู้ที่เปิดหนทางแนวดนตรีให้ก้าวไกลไปอีกขั้น ซึ่งมีศิลปินน้อยคนนักที่จะทำได้ในแบบนี้
หน้า 1
The Road To Utopia (4.53) ชื่อเพลงก็บอกถึงทางที่จะเดินไปถึงแดนพระศรีอารย์ ดังนั้นการอินโทรดนตรีจึงค่อนข้างจะซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความลี้ลับและน่าติดตาม สำหรับเพลงของ Utopia สิ่งที่แน่นอนในทุก LP ก็คือเขาจะมีการประสานเสียง เสียงเครื่องซินเธอไซน์ของ Roger Powell เด่นเป็นพิเศษ ช่วงของแนวการร้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเรื่อยๆ เพราะนักดนตรีทุกคนของคณะร้องเพลงได้ทุกคนและเพราะด้วย เชื่อขนมกินได้ ต้องเป็นเพลงที่ท่านชอบ
Set Me Free (3.38) เสียงกีต้าร์ของ Todd ประสานกับเสียงซินเธอไซน์ของ Roger ทำให้เพลงน่าฟังขึ้นเยอะ และได้เสียงเบสของ Kasim Sulton ซึ่งเป็นผู้เล่นส่งจังหวะได้อย่างดีเยี่ยม เสียงเครื่องซินเธอไซน์บางตอนคล้ายๆกับเสียงเปียโน บางตอนลากเสียงซินเธอไซน์ได้เสียดสีรูหูของท่านได้เยี่ยมยอด
Second Nature (2.34) ขึ้นต้นด้วยเสียงกลองของ John Willie Wilcox เพลงนี้ลดระดับเสียงลงไปในการเล่น โชว์ฝีมือเครื่องซินเธอไซน์และอีเลคโทรนิคได้อย่างงดงาม แต่ฟังดูแล้วในเพลงนี้นุ่มนวล ฟังได้สบายๆไม่ต้องคิดมาก
Shot In The Dark (3.07) สิ่งที่ Todd ให้ในเสียงเพลงของ Utopia ค่อนข้างจะแปลกคือ ถึงแม้เขาจะเป็นนักกีต้าร์หรือหัวหน้าวงและรับหน้าที่ในวง แต่ Todd ก็ไม่ค่อยจะทำตัวเป็นตัวเอกเท่าไร ถ้าเล่นกันในนามของวง Utopia แต่ในเพลงนี้ท่านจะได้ฟังเสียงกีต้าร์ช่วงโซโล่ของ Todd บ้างแล้ว ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆแต่ก็แสดงถึงฝีมืออันฉกาจฉกรรจ์ของ Todd มายืนยันให้ท่านทราบ
Caravan (6.59) เพลงนี้อินโทรได้เพราะมาก เพราะจริงๆแต่น่าเสียดายที่เพลงนี้ยาวเกินไปที่จะนำไปตัดเป็นแผ่นซิงเกิ้ล ท่านจะได้ฟังถึงฝีมืออันเกรียงไกรของนักดนตรี 4 คน ที่ฝีมือของเขาอาจจะไม่เก่งกาจจนถึงอันดับ 1 ของโลกในการเล่นเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นก็ตาม แต่เมื่อเขามารวมตัวกันแล้วก็สามารถยืนยันถึงสุภาษิตของไทยที่กล่าวไว้ได้คือ "สามัคคีคือพลัง" ท่านจะได้เห็นการโชว์ความสามารถในทางเล่นเครื่องดนตรีได้อย่างเยี่ยมยอด ไม่ว่าจะเป็นเสียงกลอง,เบส,กีต้าร์, ซินเธอไซน์ หรือการร้องประสานเสียง ยอดจนยกให้ไปเลย 4 ดาวในเพลงนี้ แต่ท่านจะต้องชอบการเล่นของวง Utopia ก่อนนะครับ ท่านถึงจะเห็นความสามารถของเขาได้เด่นชัด
หน้า 2
Last Of The New Wave Ribers (4.19) ขึ้นต้นด้วยเสียงเบส เบสในตอนขึ้นต้นเล่นได้สวยงามมาก แต่ในเพลงนี้ Todd เล่นกีต้าร์ได้เจ็บแสบมาก ลีดกันสนุกครับ นานๆจะได้เห็น Todd เล่นกีต้าร์เร็วๆอย่างนี้สักครั้งหนึ่ง แนวดนตรีในเพลงนี้ค่อนข้างจะหนักหน่วงสำหรับวง Utopia สักหน่อย เพราะเขาไม่ค่อยจะเล่นเพลงหนักๆอย่างนี้ให้เราฟังกันหรอกครับ ไม่ใช่หนักหน่วงอย่างเดียว ยังรวดเร็วด้วย หวังว่าผู้ที่ชอบแนวดนตรีดุเดือดคงชอบเพลงนี้ สำหรับ LP ชุดนี้นะครับ
You Make Me Crazy (3.49) One Two แล้วเสียงเครื่องซินเธอไซน์ก็ขึ้น ท่วงทำนองที่ขึ้นค่อนข้างจะตลก แต่พอดนตรีขึ้นท่วงทำนองก็เปลี่ยนไปเลย แต่ฟังๆดูแล้วเป็นทำนองแปลกๆดี แต่พอหวนกลับมาดูชื่อเพลงแล้ว มันเข้ากับท่วงทำนองและความหมายได้ดีจังเลย เห็นถึงความเก่งกาจของ Todd และ Utopia แล้วใช่ไหมครับ
The Very Last Time (3.49) ดนตรีเบาลงไปเยอะทีเดียว แต่ส่วนมากจุดเด่นของเพลงในวง Utopia คือทีมเวิร์คและการร้องประสานเสียงอันแน่นหนาของคณะ แต่ในเพลงนี้ไม่ค่อยจะได้โชว์ถึงการประสานเสียงมากนัก แต่ไม่ใช่ไม่มีนะครับ แต่ไม่มากและไม่สลับซับซ้อนเหมือนเพลงอื่น ถ้าท่านฟังดูให้ดี เพลงของ Utopia ถ้าไม่มีการซ้อมอย่างดี ไม่มีทางประสานเสียงได้อย่างนี้เลย
Love Alone (3.52) เป็นเพลงช้าๆหวานๆ ซึ่งถ้าท่านมีอารมณ์สุนทรีย์แล้วท่านคงชอบเพลงนี้มากเป็นพิเศษ เป็นเพลงร้องนำโดยมีดนตรีเป็นส่วนประกอบคือคลอเข้าไปเท่านั้น แต่ Utopia ก็ทำได้อย่างวิเศษ ไม่เสียอารมณ์เลยครับ เสียงดนตรีที่คลอก็คือเครืองซินเธอไซน์นั่นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านี้เลย
Rock Love (5.31) จากเพลง Love Alone พอมาถึงเพลงนี้บรรยากาศเปลี่ยนไปเลย เพลงนี้ช่วงจังหวะสนุกสนาน เป็นจังหวะจะโคน โดยเฉพาะเสียงกลองตีเข้าจังหวะได้อย่างดี จนท่านจะหาฟังไม่ค่อยได้ง่ายแน่ๆ เพราะนี่เป็นเสียงกลองในแบบเบสิก คือใครๆก็ตีได้ พอมือกลองมาอัดแผ่นเสียง เขาจะใส่ลูกเล่นลงไปมากๆจนทำให้เราไม่ค่อยได้ฟังเสียงกลองแบบเรียบง่ายเป็นจังหวะธรรมชาติเท่าไร แต่เพลงนี้ก็ไม่ใช่เพลงโชว์กลองหรอกครับ แต่เห็นเสียงกลองเป็นธรรมชาติดีจัง เอามาพูดให้ฟังเท่านั้น
ดนตรีของ Utopia เปลี่ยนไปมาก เพราะวงนี้ไม่ค่อยจะมีแนวดนตรีที่แน่นอนเท่าไรนัก แต่ฝีมือของวงก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นหนึ่งอย่างสวยงาม แต่แนวดนตรีของวง Utopia จะเรียกแฟนได้มากขึ้นทีละชุดๆ แต่ค่อนข้างช้าและมั่นคง เหมือนกับวง Genesis ฯลฯ เพราะแนวดนตรีของวงอย่างนี้เล่นไม่ค่อยเอาใจตลาด แต่ก็มี ไม่ใช่ไม่มี แต่น้อยมาก เพราะอุดมคติกินไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าท่านต้องการหนีความซ้ำซากจำเจของเสียงเพลงในรูปแบบเก่าๆ ต้องการหาในรูปแบบใหม่ๆแปลกๆ Utopia จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน
SP 146
SP 146
No comments:
Post a Comment