แผ่นชุดล่าสุดของ Black Sabbath ซึ่งออกเมื่อปี 1978 ยังไม่ได้นำมาพูดถึง เพราะมีอะไรค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างในวง Black Sabbath สมาขิกไม่เปลี่ยน แต่ได้มีดารารับเชิญมาในวง 2 คน ไม่ใช่สมาชิก แต่เป็นพวกมือปืนรับจ้าง โดยมี Don Airey เล่น keyboards , John Elstar เล่น Harmonica เขียนเพลง และเป็น producer โดยคณะ Black Sabbath เอง แผ่นนี้มีเกมส์ให้เขียนรายชื่อส่วนประกอบต่างๆของทหารอากาศ และส่วนประกอบของเครื่องบินด้วย
หน้า 1
1. Never Say Die เพลงชื่อเดียวกับ LP ฟังเพลงนี้แล้วหวลให้คิดถึงเพลง Paranoid อันลือลั่นของ Black Sabbath ในอดีต แต่สิ่งที่ทำให้แปลกออกไปของ Black Sabbath คือเสียงคีย์บอร์ดส แต่เพลงนี้พลังอันหนักหน่วงของวง Heavy ในอดีตยังมีอยู่ครบ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องอันทรงพลังของ Ozzy Osboutne ขาดแต่เสียงกีต้าร์อันคมกริบของ Tony Iommi รู้สึกลดพลังลงไปเยอะ
2. Johnny Blade ขึ้นต้นด้วยเสียง keyboards คล้ายๆเสียง piano ในภาพยนตร์เรื่อง "ปีศาจในโรงละคร" เป็นเพลงที่ยังคงอยู่ในรูปแบบของ Black Sabbath ทุกอยาง มีความรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ยังมีอยู่อีกวงที่ยังไม่ทิ้งแฟนในรุปแบบของเพลง Heavy ออกไปในทันที
3. Junior's Eyes ในเพลงนี้ลดเสียงในการบันทึกลงในห้องอัดไปเยอะทีเดียว ขึ้นต้นด้วยเสียงกลองและเบสส์ เดินหน้าไปอย่างเชื่องช้าแต่ได้จังหวะ แล้วค่อยๆดังขึ้นทีละนิด แต่ไม่มาก คล้ายๆสิ่งที่จะคุกรุ่นขึ้นมา แต่ยังไม่ระเบิดเท่านั้นเอง พอเพลงกำลังเข้าสู่ความมัน ระดับเสียงของการบันทึกก็กลับลดลงไปอีกครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้ถึงกับเสียอารมณ์ในการฟัง แต่มันกลับเป็นความมันในอีกรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
4. Hard Road เพลงสุดท้ายในหน้า 1 ขึ้นต้นด้วยการประสานกีต้าร์และเบสส์ควบคู่กันไป เสียงของ Ozzy ในเพลงนี้ลดความดุเดือดลงไป คล้ายๆร้องผ่านๆไป แต่ไม่ใข่ไม่เต็มใจร้อง คล้ายจะทำบรรยากาศในการฟังเพลงเป็นกันเองระหว่างแผ่นเสียงที่ท่านกำลังฟัง ว่ามันไม่ห่างเหินจนเกินไป ในการที่ท่านจะได้รับความรู้สึกของนักดนตรีที่ต้องการปรับปรุงความสำเร็จของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่พูดจริงๆ ความพยายามของ Black Sabbath ยังคงค่อนข้างห่างความจริงอีกไกล ใน LP ชุดนี้ ยกเว้นเพลง Never Say Die รู้สึกว่าท่วงทำนอง beat จะซ้ำซากจำเจอยู่อย่างเดิม ถึงแม้จะพยายามหลบเลี่ยง keyboards ไม่ได้เด่น ชัดจนเกินไป แต่มันก็ยังคงเด่นชัดอยู่นั่นเอง
หน้า 2
1. Shock Wave ในขณะที่เพลง Never Say Die นำท่านไปสู่บรรยากาศเก่าๆของเพลง Paranoid แต่เพลง Shock Wave กลับพาท่านไปสุ่บรรยากาศของ LP ชุด Sabbath Bloody Sabbath ท่วงทำนองคล้ายๆกันมาก แต่ Black Sabbath คงกลัวซ้ำซากจำเจ เลยเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กๆน้อยๆ จึงทำให้เพลงยาวโดยใช่เหตุ และกลายเป็นความน่าเบื่อไป
2. Air Dance ท่วงทำนองเบาลง แต่เนื้อเพลงค่อนข้างไปทางบัลลาด คือเป็นบทกลอน Black Sabbath พยายามที่จะแหวกรูปแบบของตัวเองออกจริงๆ แต่กลัวจะไม่ได้รับความนิยมจากแฟนเก่าๆ และทำให้สูญเสียแฟนเก่าๆบางกลุ่มไป และก็ไม่ได้รับความนิยมจากแฟนรุ่นใหม่ๆด้วย
3. Over To You ค่อนข้างจะน่าเบื่อ เมื่อนำเสียงคีย์บอร์ดสมาเป็นพระเอกในเพลงนี้ และความไพเราะจึงหาไม่ค่อยได้ เป็นความพยายามที่ไม่สวยเลย
4. Breakout เป็นเพลงบรรเลงเดียวในชุดนี้ ถ้าท่านสังเกตให้ดี LP แทบทุกชุดของ Black Sabbath จะต้องมีเพลงบรรเลงประกอบด้วยเสมอ ตั้งแต่ฟังเพลงบรรเลงของ Black Sabbath มาก็เยอะ เพลงนี้ค่อนข้างจะแย่ที่สุด เสียง Harmonica เด่นชัดเป็นพิเศษ คล้ายๆจะได้รับอิทธิพลเพลง Jazz เข้าไป
5. Swinging The Chair เป็นเพลงปิดท้ายรายการที่ไม่ค่อยสวยนัก น่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกแยะ แต่รู้สึกว่า Black Sabbath นำเพลงนี้เข้ามาเพื่อให้ LP ชุดนี้สมบูรณ์ เพราะเพลงทุกเพลงเรียกว่า เป็นการกล่าวถึงทหารอากาศแทบทุกเพลง คล้ายๆ LP ชุด Tommy ของ The Who แต่ไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องราวแบบ Tommy ของ The Who เท่านั้น
ถ้าท่านเป็นแฟนเพลงของ Black Sabbath ท่านคงผิดหวังค่อนข้างมาก เพราะหาเพลงดีจริงๆได้ไม่มากนัก เช่นเพลง Never Say Die แต่ก็อาจจะหลุดพ้นรูปแบบของ Black Sabbath ออกไปก็หลายเพลง แต่ LP ชุดนี้ ถ้านำไปเทียบกับชุด Technical Ecstasy แล้ว LP ชุด Never Say Die เหนือกว่า แตไม่มากนักหรอกครับ อีกข้อหนึ่งทีสำคัญคือ ชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายที่ Ozzy Osbourne ร้องนำให้กับ Black Sabbath ตามข่าวล่าที่ได้มา Ronnie James Dio อดีตนักร้องนำ Rainbow ของ Blackmore เข้าแทนที่
SP 143
SP 143

No comments:
Post a Comment